ชื่อสารเคมี : เมอร์คิวรี่บริสุทธิ์
ชื่อภาษาอังกฤษ : Pure Mercur
สูตรโครงสร้าง : Hg
ประโยชน์ : ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่, เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา, เป็นสารยับยั้ง, ใช้ในเทคนิคการแยกด้วยไฟฟ้า, ใช้ในการทำเทอร์โมมิเตอร์ โลหะชนิดนี้ไม่ละลายน้ำ
คุณสมบัติทางเคมี : เป็นของเหลวสีเงินไม่มีกลิ่น
จุดเดือด : 356.7 °C , จุดหลอมเหลว : -38.87 °C
ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยาเคมี :
- ความคงตัวทางเคมี : สารนี้มีความเสถียรภายใต้สภาวะปกติของการใช้ และการเก็บ
- สารที่เข้ากันไม่ได้ : อะเซทิลีน แอมโมเนีย เอทิลีนออกไซด์ คลอรีนไดออกไซด์ เอไซด์ โลหะคาร์บอนิล โลหะออกไซด์ เมทิลไซเลน ลิเทียม รูบิเดียม ออกซิเจน สารออกซิไดซ์รุนแรง
- สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง : ความร้อน เปลวไฟ แหล่งจุดติดไฟ โลหะ และสารที่เข้ากันไม่ได้
- สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : ที่อุณหภูมิสูงจะเกิดไอพิษ
การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด :
- สารนี้ไม่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ และการระเบิดที่เป็นอันตราย
การจัดเก็บ :
- เก็บในภาชนะให้มิดชิดในที่แห้งและเย็น
- เก็บในบริเวณที่มีการระบายอากาศเพียงพอ
- แยกจากแหล่งจุดติดไฟและความร้อน
- ป้องกันการทำลายทางกายภาพ
- อย่าเก็บสารไว้ในบริเวณที่ทำงาน
** แหล่งข้อมูลมาจาก ศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ กรมควบคุมมลพิษ
ชื่อภาษาอังกฤษ : Pure Mercur
สูตรโครงสร้าง : Hg
ประโยชน์ : ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่, เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา, เป็นสารยับยั้ง, ใช้ในเทคนิคการแยกด้วยไฟฟ้า, ใช้ในการทำเทอร์โมมิเตอร์ โลหะชนิดนี้ไม่ละลายน้ำ
คุณสมบัติทางเคมี : เป็นของเหลวสีเงินไม่มีกลิ่น
จุดเดือด : 356.7 °C , จุดหลอมเหลว : -38.87 °C
ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยาเคมี :
- ความคงตัวทางเคมี : สารนี้มีความเสถียรภายใต้สภาวะปกติของการใช้ และการเก็บ
- สารที่เข้ากันไม่ได้ : อะเซทิลีน แอมโมเนีย เอทิลีนออกไซด์ คลอรีนไดออกไซด์ เอไซด์ โลหะคาร์บอนิล โลหะออกไซด์ เมทิลไซเลน ลิเทียม รูบิเดียม ออกซิเจน สารออกซิไดซ์รุนแรง
- สภาวะที่ควรหลีกเลี่ยง : ความร้อน เปลวไฟ แหล่งจุดติดไฟ โลหะ และสารที่เข้ากันไม่ได้
- สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : ที่อุณหภูมิสูงจะเกิดไอพิษ
การเกิดอัคคีภัยและการระเบิด :
- สารนี้ไม่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ และการระเบิดที่เป็นอันตราย
การจัดเก็บ :
- เก็บในภาชนะให้มิดชิดในที่แห้งและเย็น
- เก็บในบริเวณที่มีการระบายอากาศเพียงพอ
- แยกจากแหล่งจุดติดไฟและความร้อน
- ป้องกันการทำลายทางกายภาพ
- อย่าเก็บสารไว้ในบริเวณที่ทำงาน
** แหล่งข้อมูลมาจาก ศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ กรมควบคุมมลพิษ